ยังจำกันได้ไหม? ตามหาหน้าแข้งลีดส์ชุดตกชั้นพรีเมียร์ลีกปี2004 
ลีดส์ ยูไนเต็ด ในสมัยของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า สามารถอยู่รอดตกชั้นถัดไปได้ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้โลดแล่นอยู่บนลีกสุงสุดเป็นปีลำดับที่สองต่อเนื่องกันแล้ว นับจากเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีเมื่อฤดู 2020/21
ย้อนกลับไปในปี 2004 กองทัพ "ยูงทองคำ" จำเป็นต้องกระเด็นตกชั้นจากลีกสูงสุดช่วงวันที่ 2 พ.ค. 2004 ภายหลังจากพ่ายแพ้ต่อ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-4 โดยณ ตอนนั้นพวกเขาเต็มไปด้วยหน้าแข้งสตาร์ดัง แม้กระนั้นในที่สุดลำแข้งกลุ่มนี้จำต้องถูกขายออกจากกลุ่มเพื่อประคองการคลังของสมาคม
วันนี้พวกเราจะพาย้อนระลึกความจำกันอีกรอบว่าผู้คนเหล่านั้นมีผู้ใดกันบ้าง และก็กำลังทำอะไรอยู่ที่แหน่งใดในขณะนี้
ผู้เฝ้าประตู : พอล โรบินสัน
สมัยก่อนนายทวารกลุ่มชาติอังกฤษเป็นผู้เล่นจากชุดเยาวชนของกลุ่ม ก่อนที่จะขึ้นมามีชื่อเล่นให้กลุ่มชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในช่วงฤดูกาล 1997/98 แล้วก็สามารถก้าวขึ้นมายึดมือชั้นยอดให้กลุ่มได้เสร็จตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา อย่างไรก็ดีภายหลังไม่สามารถที่จะพาทีมรอดตกชั้นได้เจ้าตัวก็ย้ายไปอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยค่าตอบแทน 1.5 ล้านปอนด์ ในตอนซัมเมอร์ปี 2004
เวลาที่ขณะนี้ โรบินสัน วัย 41 ปี ดำเนินงานเป็นนักการทูตของ สเปอร์ส ภายหลังห้อยถุงมือกับ เบิร์นลีย์ ในวัย 37 ปี เมื่อปี 2017
ตัวบุกปีกขวา : มึงปรี่ เคลลี่
ตำนานตัวบุกปีกขวา “วัน คลับ แมน” ของ ลีดส์ ยูไนเต็ด นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตผลจากชุดเยาวชนของ ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยขึ้นมาเล่นให้กลุ่มชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 1991 ก่อนที่จะก้าวมายึดมือหนึ่งของกลุ่มได้ในเวลาถัดมา รวมทั้งหากว่ากลุ่มจะตกชั้นร่วงไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพในปี 2004 เขาก็ยังอยู่ช่วยกลุ่มถัดไปจนถึงกระท่งห้อยสตั๊ดในปี 2007 โดยมีสถิติลงในสนามถึง 531 เกม
ภายหลังจากห้อยสตั๊ดช่วงนี้ เคลลี่ ในวัย 47 ปี ทำธุรกิจครอบครัว แล้วก็ให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับศูนย์โรคมะเร็งที่ประเทศไอร์แลนด์
เซ็นเตอร์ : ไมเคิล มองเบอร์รี
สมัยก่อนเซ็นเตอร์แบ็กย้ายจาก เชลซี มาเล่นให้ ลีดส์ ในปี 1999 แต่ว่าจำต้องมาอยู่ในสถานะผู้เล่นสำรองแค่นั้นข้างหลังไม่อาจจะแทรกแย่งตัวจริงกับเหล่าสตาร์ดังอีกทั้ง โจนาธาน วู้ดเกต หรือ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ สโต๊ค สิตี้ ในปี 2004 รวมทั้งห้อยสั้ดกับ อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด ด้วยวัย 37 ปี
ตอนนี้ มองเบอร์ปรี่ ในวัย 45 ปี ปฏิบัติหน้าที่เป็นวิทยากรให้สร้างแรงดลใจ
เซ็นเตอร์ : สตีเว่น ติดอยู่ลด์เวลล์
อดีตกาลเซ็นเตอร์ชาวสกอตถูก ลีดส์ ดึงตัวมาร่วมทีมด้วยคำสัญญายืมตัวในปี 2003 ในระยะเวลาสั้นๆในถิ่นยอร์คเชียร์สมัยก่อนลำแข้งชาวไอริชลงเล่นไป 13 เกม ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์, เบิร์นลีย์ ละ โตรอนโต้ เอฟซี เป็นลำดับ
ภายหลังห้อยสตั๊ดไปในปี 2015 เจ้าตัวผันตัวไปเป็นผู้ฝึกสอนของกลุ่มชาติแคนาดาในปี 2019
ตัวบุกปีกซ้าย : เบื่อ ฮาร์ต
อดีตกาลตัวบุกปีกซ้ายมีชื่อเสียงนับว่าเป็นอีกหนึ่งลำแข้งตัวเอกในกลุ่มชุดนี้ โดยขึ้นจากกลุ่มชุดยเาวชนมาเล่นให้กลุ่มชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 1995 โดยภายหลังกลุ่มตกชั้นในปี 2004 ฮาร์ต ก้ย้ายออกไปเล่นให้กับหลายสมาคม โดยเดี๋ยวนี้เจ้าตัวผันตัวมาเป็นเอเยนต์ของนักฟุตบอล
ตัวเติมเกมรุกจากฝั่งขวา : พบร์เมน เพนแนนท์
อีกหนึ่งลำแข้งจอมร่อนเร่พเนจรเคยมาเล่นให้กับ ลีดส์ ในตอนช่วงเวลาสั้นในช่วงฤดูกาล 2003/04 ด้วยคำสัญญายืมตัว โดยได้ลงเล่นถึง 36 เกม โดยตอนนี้ เพนแนนท์ ในวัย 38 ปี ยังค้าลำแข้งอยู่กับ เรดดิช ยูไนเต็ด กลุ่มในระดับเจ็ด
มิดฟิลด์ : โดมินิค มัตเตโอ
อดีตกาลกองกลางกลุ่มชาติสกอตแลนด์ ย้ายจาก หงส์แดง มาเล่นให้ ลีดส์ ในปี 2000 แล้วก็แปลงเป็นกำลังสำคัญช่วยกลุ่มนับจากนั้นมาจนกระทั่งปี 2004 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ กางล็กเบิร์น รวมทั้ง สโต๊ค สิตี้ เป็นลำดับ
ปัจจุบันนี้ มัตเตโอ ในัวัย 47 ปี จำต้องเข้ารับการดูแลรักษาจากการตรวจเจอเนื้องอกในสมองเมื่อท้ายปีก่อนหน้านี้
มิดฟิลด์ : สตีเฟน แม็คเฟล
อีกหนึ่งหน้าแข้งจากชุดเยาวชนของ ลีดส์ ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของไอร์แลนด์ในสมัย 2000 ก่อนในที่สุดจึงควรย้ายออกจากกองทัพ "ยูงทองคำ" ในปี 2004 แล้วก็ห้อยสตั๊ดในปี 2009 เดี๋ยวนี้ แม็คพาย 41 ปี กำลังปฏิบัติงานเป็นผู้อำนวยการกีฬาของลีกไอร์แลนด์
ตัวเติมเกมรุกจากฝั่งซ้าย : เจมส์ ไม่ลเนอร์
ในปีดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ไม่ลเนอร์ เป็นเยี่ยมในหน้าแข้งดาวรุ่งพุ่งแรงของกลุ่ม โดยในวัย 18 ปีเขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นเลิศในแกนหลักของกลุ่มได้ โดยลงเล่นไปทั้งหมด 30 เกม ยิง 3 ประตู ในช่วงฤดูกาล 2003/04 แต่ว่าสมาพันธ์ต้องปลดปล่อยเจ้าตัวออกมาจากกลุ่มภายหลังตกชั้น
ตั้งแต่นั้นมา ไม่ลเนอร์ ก็ปรับปรุงฝีเท้ากระทั่งแปลงเป็นหนึ่งในลำแข้งชั้นแนวหน้าในพรีเมียร์ลีก โดยปัจจุบันนี้ยังคงเป็นข้อสำคัญให้กับ หงส์แดง ในวัย 35 ปี
แนวรุก : มาร์ค วิมองก้า
วิมองก้า เปลี่ยนเป็นขวัญใจของแฟนบอล "ยูงทองคำ" อย่างเร็ว นับจากย้ายมาจาก เซลติเตียนก ในปี 2000 ด้วยค่าจ้าง 6.5 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะทดแทนผลงานได้อย่างสมราคาในทันที
แนวรุกชาวออสซี่ รัวไปถึง 17 ประตู จาก 34 เกมในพรีเมียร์ลีก รั้งชั้น 3 ร่วมดาวซัลโวสูงสุด เท่ากันกับ เธียร์รี อองรี ของ อาร์เซน่อล โดยรวมผลงานตลอด 4 ปีนั้นเจ้าตัวยิงรวมกันทุกรายการทั้งหมดทั้งปวง 72 ประตูจาก 166 เกม และก็จำเป็นต้องถูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวออกมาจากกลุ่มไปอยู่กับ มิดเดิ้ลสโบรช์
ภายหลังเจ้าตัวเลิกการค้าขายหน้าแข้งก็หันหลังให้กับแวดวงลูกหนังด้วยการมาเปิดร้านกาแฟที่กรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย
แนวรุก : อลัน สมิธ
อีกหนึ่งหน้าแข้งผู้เป็นขวัญใจของแฟนบอล ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงรวมทั้งอยู่ในชุดปีทองคำอัศจรรย์ของกลุ่ม โดยภาพที่สะเทือนอารมณ์แฟนบอลสูงที่สุดเป็นภาพที่เขาหลั่งน้ำตาที่รีบ็อก สเตเดี้ยม ภายหลังจากกลุ่มแพ้ โบลตัน รวมทั้งจำต้องกระเด็นตกชั้น ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทัพ "ภูติผีแดง" ในปี 2004
สมิธ ห้อยสตั๊ดกับ น็อตต์ เคาน์ตี้ ในปี 2018 โดยในเวลานี้ในวัย 40 ปี เขาไปดำเนินชีวิตอยู่ที่อเมริกา โดยฝึกการสอนบอลในกลุ่มอค้างเดมี่
