อาร์เซน่อล กับจำนวนที่บอกถึงผลงานอันชั่วร้าย 
แน่ๆ ฉันรูบางบุคคลฟันธงตั้งแต่ก่อนเริ่มเกมแล้วว่ามันได้โอกาสสูงพอสมควรที่ อาร์เซน่อล จะแพ้ เชลซี ติดอยู่รัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค. ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แม้กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ด้วยเหมือนกันว่าสำหรับแฟนบอล “ไอ้ปืนใหญ่” แล้วนั้น พวกเขาต้องการที่จะให้ผลจากการแข่งขันมันออกมาดีมากยิ่งกว่าที่จะจำต้องมาเห็นทีมรักแพ้ในเกม ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ 0-2
ผลของการแข่งขันอย่างนั้นทำให้ทั้งยัง ไม่เกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล รวมทั้งกระดานบริหารของกลุ่มพบกับกระแสบีบคั้นมากขึ้นไปอีก เพราะเหตุว่าแรกเริ่มสาวก "ไอ้ปืนใหญ่" หลายท่านก็ไม่จับใจกับผลงานโดยรวมของกลุ่มตั้งแต่แมื่อที่ อาร์เตต้า เข้ามาคุมกลุ่มอยู่แล้ว โดยความพ่ายแพ้ในนัดหมายปัจจุบันทำให้มันเป็นครั้งแรกที่ อาร์เซน่อล ออกสตาร์ตในลีก 2 ครั้งแรกแบบแพ้ทั้งสิ้น แล้วก็ทำประตูมิได้เลยด้วย
อย่างไรก็ดี โน่นไม่ใช่จำนวนเดียวที่ชี้ให้เห็นถึงภาวะที่น่าห่วงของ อาร์เซน่อล ในเวลานี้ ทดลองไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันมีอะไรอีกบ้าง
– 20
เกมกับ เชลซี นับเป็นการนำ อาร์เซน่อล ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เป็นนัดหมายที่ 60 ของ อาร์เตต้า แต่แปลงเป็นว่าเขานำกลุ่มเจอกับความพ่ายแพ้ในลีกไปแล้วถึง 20 เกมร่วมกัน หรือก็คือคิดเป็น 1 ใน 3 จากการนำกลุ่มลงเล่นในลีก ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่สูงมากจนเกินความจำเป็นสำหรับชมรมระดับ อาร์เซน่อล
ดังนี้ แม้เทียบกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ อาร์เซน่อล แล้วล่ะก็ รายนั้นกว่าที่จะทำทีมแพ้ในลีกแตะต้องหลัก 20 เกมนั้นก็จำเป็นต้องรอคอยไปจนกระทั่งนัดหมายที่ 116 สำหรับการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลของ "ไอ้ปืนใหญ่" อย่างยิ่งจริงๆ
– 78.9 vs 78.2
ในตอนหลายปีล่วงมาแล้วนั้นการบันทึกสถิติในโลกลูกหนังให้ความใส่ใจกับสถิติด้าน "จังหวะที่จะต้องเป็นประตู" (Expected Goals) เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุว่ามันช่วยสื่อได้ในระดับหนึ่งว่ากลุ่มนั้นๆสามารถสร้างเกมรุกกระทั่งมีจังหวะลุ้นทำคะแนนได้มากมากแค่ไหน โดยนับจากที่ อาร์เตต้า เปิดฉากการควบคุม อาร์เซน่อล เมื่อตอนบ็อกซิ่งเดย์ ปี 2019 กลุ่มของเขาก็มีตัวเลข "จังหวะที่จะต้องเป็นประตู" อยู่ที่ 78.2
ในทางตรงกันข้าม ถ้านับรวมคู่แข่งขันทุกครั้งมในลีกที่เคยดวลกับ อาร์เซน่อล ของ อาร์เตต้า แล้วนั้น ก็จะพบว่ากลุ่มพวกนั้นมีตัวเลข "จังหวะที่ต้องเป็นประตู" เฉลี่ยรวมกันอยู่ที่ 78.9 รวมทั้งมันไม่ใช่เรื่องดีเลยถ้าหากคุณจะกล่าวว่าตนเองเป็นกลุ่มใหญ่ รวมทั้งเป็นกลุ่มที่เล่นเกมรุกก้าวหน้า กลับมีตัวเลขด้านนั้นน้อยกว่าคู่แข่งขัน
ยังดีที่ถ้าเปรียบเทียบเฉพาะความเด็ดขาดสำหรับในการจบสกอร์แล้วนั้นกลุ่มของ อาร์เตต้า ยังทำเป็นน่าพึงพอใจ เพราะว่าจาก "จังหวะที่ควรเป็นประตู" 78.2 ลูกนั้น พวกเขาทำคะแนนได้จริงๆ85 ลูก บอกอีกแบบก็คือพวกเขาทำคะแนนได้เยอะแยะกว่าที่ต้องเป็นเกือบจะ 7 ประตู ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เสียประตูให้คู่ปรับจริงๆ60 ลูก จากจังหวะที่ควรเสียประตู 78.9 ประตู แต่ว่ากลุ่มของ อาร์เตต้า ก็จะต้องปรับปรุงแก้ไขการขึ้นเกมรุกอยู่ดี
– 94
โน่นเป็นปริมาณแต้มที่ อาร์เซน่อล ในสมัยของ อาร์เตต้า ทำเป็นจากการที่เขานำกลุ่มลงเล่นในลีก 60 นัดหมาย นับจากวันที่ 26 ธ.ค. ปี 2019 โน่นทำให้กลุ่มของ อาร์เตต้า สามารถเก็บแต้มในลีกได้มากที่สุดเป็นชั้น 6 ของ พรีเมียร์ลีก ถ้าตั้งแต่แมื่อช่วงนั้นจนกระทั่งปัจจุบันนี้
การเป็น "ชั้น 6" บางทีก็อาจจะฟังดูดี แต่ว่า 5 ชั้นที่อยู่เหนือกว่าเขาต่างก็เป็นกลุ่มใหญ่เช่นกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, หงส์แดง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และก็ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แถมเอาจริงเอาจังๆกลุ่มของ อาร์เตต้า ก็ยังเก็บแต้มน้อยกว่า สเปอร์ส ที่เป็นชั้น 5 อยู่ถึง 7 แต้มด้วย ถ้าเกิดนับเฉพาะปริมาณแต้มที่ "ไก่เดือยทองคำ" ทำเป็นตั้งแต่แมื่อวันบ็อกซิ่งเดย์ของปี 2019 เป็นต้นมา
– เด็กเกร็ดบอล –
