โรนัลโด้ จะสะกดรอย ? เดนิส ลอว์ ตำนาน แมนยู ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ซบ แมนซิตี้ กระแสข่าวประเด็นการย้ายกลุ่มของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้า ยูเวนเหม็นตุส ร้ายแรงเพิ่มมากขึ้นในตอนยาวนานหลายวันมานี้ แม้ว่าเจ้าตัวจะเคยออกมากล่าวว่าผู้รายงานข่าวไม่สมควรเอาตนไปเล่นข่าวสารแบบเกินเลยไปก็ตาม ซึ่งเพียงแค่ความน่าจะเป็นไปได้ของการย้ายกลุ่มของ โรนัลโด้ มันก็นับว่าน่าฮือฮามากพอตัวอยู่แล้ว
แต่ มันกลับน่าดึงดูดมากขึ้นไปอีกเมื่อ ฟาบริสิโอ โรมาโน่ ผู้รายงานข่าวที่ได้รับความน่าไว้ใจสูงเป็นลำดับต้นๆเวลานี้นั้น ถึงกับบอกเลยว่า จอร์จ เมนเดส เอเเยนต์ของ โรนัลโด้ กำลังติดต่อกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นให้ได้ โดยถึงแม้ว่า "เรือใบสีฟ้า" จะยังไม่มีท่าทางพอใจประพฤติดีลนี้ แม้กระนั้นมันก็เกิดเรื่องที่ช็อกมากมายๆเมื่อพิจารณาถึงการที่ โรนัลโด้ เคยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่กรณีร่วมเมืองของ แมนฯ ซิตี้ มาก่อน
แน่ๆ หากว่า โรนัลโด้ ย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ จริงๆมันก็อาจจะเป็นผลให้มีคนรักบอล แมนฯ ยูไนเต็ด บางบุคคลเดือดแค้นสุดๆด้วยเหตุว่าสำหรับ "เร้ด อาร์มี่" คนจำนวนไม่น้อยแล้วนั้น ตัวรุกชาวโปรตุๆกีสนับว่าเป็นตำนานของสมาคมมาจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งเขาก็ยังเป็นขวัญใจของแฟนบอล "ปีศาจร้ายแดง" หลายท่านด้วย
จริงอยู่ว่าในสมัยก่อนมีผู้คนจำนวนมากที่เคยบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างมากใหญ่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมทั้งเคยอยู่กับกลุ่มเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกระทั่งเข้าขั้นเป็นตำนานของกลุ่ม แม้กระนั้นในวันหลังกลับแวะไปเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ดังเช่น แอนดี้ วัวล หรือ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล แม้กระนั้นไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าแรงกระเพื่อมที่อาจจะมีการเกิดขึ้นหาก โรนัลโด้ ย้ายไปซบ แมนฯ ซิตี้ นั้น มันจะร้ายแรงกว่ากรณีของอีกทั้ง 2 คนมีชื่อเสียงกล่าวมากพอตัว (ในตอนที่ คาร์ลอส เตเวซ แม้ว่าจะเคยได้แชมป์หลายรายการกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้กระนั้นแฟนบอลนิดหน่อยก็มิได้ถึงกับขนาดชูให้เขาเป็นตำนานของกลุ่ม)
หากต้องการจะให้เปรียบเทียบไปแล้วนั้น การซบ แมนฯ ซิตี้ ของ โรนัลโด้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ราวกับที่ เดนิส ลอว์ เคยเล่นให้อีกทั้ง 2 กลุ่มของเมืองแมนเชสเตอร์ก็ว่าได้
ลอว์ นับว่าเป็นหนึ่งในตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาเคยเล่นให้กลุ่มระหว่างปี 1962-1973 และก็ได้แชมป์ร่วมกับกลุ่มหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 2 ยุค, แชมป์ เอฟเอ คัพ 1 ครั้ง, แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ 1 คราว แล้วก็แชมป์ แชร์ริตี้ ชิลด์ 2 ยุค โดยเขาทำแต้มให้กลุ่มได้ถึง 237 จากการลงเล่น 404 นัดหมายในทุกรายการด้วย
ผลงานระดับนั้นทำให้ ลอว์ ได้รับการชมเชยให้เป็นเลิศใน "Holy Trinity" ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ร่วมกับ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน แล้วก็ จอร์จ เบสต์ ภายหลังทั้งยัง 3 คนเป็นเฟืองสำคัญสำหรับเพื่อการทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยมีขณะที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง โดยมันถึงกับขนาดมีการทำรูปปั้นของทั้งยัง 3 คนเอาไว้ด้วย
การบรรลุผลที่สุดยอดระดับนั้นอาจจะก่อให้หลายท่านลืมไปว่าที่จริง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ใช่สมาคมแรกในเมืองแมนเชสเตอร์ที่ ลอว์ เล่นให้ เพราะเหตุว่าเขาเคยอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ระหว่างปี 1960-61 มาก่อน
ย้อนเรื่องในอดีตกันก่อนว่า ลอว์ เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้สะดุดตามากมายๆจนกระทั่งจนาดที่ ใบเสร็จรับเงินล์ แชงค์ลี่ย์ เคยต้องการดึงเขาตามไปร่วมงานร่วมกันที่ หงส์แดง ต่อด้วย ภายหลังที่ แชงค์ลี่ย์ เคยคุม ฮัดเดอร์สฟิลด์ มาก่อน เพียงเวลานี้ "ลิเวอร์พูล" ขาดเงินมากพอที่จะซื้อ ลอว์ ได้
ดังนี้ ในปี 1960 แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วก็ แมนฯ ซิตี้ ต่างก็มานะแย่งตัว ลอว์ กันอย่างสุดชีวิต โดยที่แท้รายของ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยตามตื้อเขาตั้งแต่ตอนปี 1956 แล้ว ก่อนจะกลับมาล่าตัวเขาอีกที แต่ว่าในที่สุดกลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่จับตัวได้ ลอว์ ไปครอบครอง ภายหลังพวกเขาจ่ายค่าจ้างไป 55,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตอบแทนที่สูงที่สุดของเกาะอังกฤษในเวลานั้น
ในสีเสื้อ แมนฯ ซิตี้ ลอว์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนกระทั่งขั้นยิงในลีกสูงสุดไป 21 จากการลงเล่น 44 นัดหมาย ในยุคแรกที่อยู่กับ แมนฯ ซิตี้ และก็ถึงเขาจะแฮปปี้กับกลุ่ม แต่ว่าเจ้าตัวก็ต้องการไปอยู่กับสมาคมที่มีการบรรลุเป้าหมายมากยิ่งกว่า ด้วยเหตุดังกล่าวในปี 1961 เขาเลยตกลงใจย้ายไปอยู่กับ โตริโน่ ด้วยค่าจ้าง 110,000 ปอนด์
ลอว์ ได้กลับมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ อีกทีในปี 1973 ซึ่งเป็นตอนที่เขาแยกทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว และก็แม้เขาจะยิงในลีกให้กลุ่มได้เพียงแต่ 9 ลูก สำหรับในการเล่นลีกสูงสุดฤดู 1973-74 แม้กระนั้นหนึ่งในนั้นเป็นประตูที่ถูกเอ่ยถึงมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ เนื่องจากว่ามันเป็นการยิงในนัดหมายในที่สุดของฤดูกาลที่เขาพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เกมนั้นเป็นเกมที่มีความหมายกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากมายๆพวกเขากำลังหนีตายโดยที่มีเงื่อนไขว่าจำเป็นต้องเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ให้ได้ และก็จะต้องลุ้นให้ เบอร์มิงแฮม สิตี้ คู่ปรปักษ์สำหรับการหนีตกชั้นแพ้ นอริช สิตี้ แบบเดียวกันด้วย
แทบ 57,000 คน เป็นจำนวนปริมาณแฟนบอลอย่างคร่าวๆที่เข้าไปเป็นพยานที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันนั้น และก็พวกเขาก็ได้เห็นภาพที่เป็นตำนาน โน่นเป็นการที่ ลอว์ ยิงแบบตอกส้นกระทั่งทำให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0
ลอว์ มิได้สังสรรค์ประตูที่ทำเป็นเลย เพราะว่าเขาทราบดีว่าประตูของเขาอาจทำให้สมัยก่อนกลุ่มรักของเขาจะต้องตกชั้น เขามีสีหน้าท่าทางที่อมทุกข์สุดๆโดยในเวลาถัดมามันก็มีคู่รักบอล แมนฯ ยูไนเต็ด เล็กน้อยที่วิ่งลงมาในสนามจนถึงก่อความจลาจลจนกระทั่งขนาดที่ผู้ตัดสินจะต้องสั่งจบการแข่งขันชิงชัยในนาทีที่ 85 ก่อนที่จะต่อไปฝ่ายจัดการแข่งจะยืนกรานให้สกอร์จบลงที่ความมีชัย 1-0 ของ แมนฯ ซิตี้
แท้จริงแม้ว่า ลอว์ จะยิงลูกดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมิได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะต้องตกชั้นอยู่ดีเนื่องจากว่า เบอร์มิงแฮม ชนะ นอริช ไปได้ 2-1 แต่ว่าหลายๆคนก็ยังมีภาพติดตามาจนกระทั่งวันนี้ว่า ลอว์ เป็นผู้ที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องตกชั้นจากลีกสูงสุด
"ผมรู้สึกหม่นหมองมากมายๆมันไม่ใช่นิสัยตามธรรมดาของผมเลย ภายหลังพากเพียรทำประตูที่ยากที่สุดมานาน 19 ปี นี่บางทีอาจจะเป็นลูกที่ผมไม่อยากที่จะให้มันเป็นประตูเยอะที่สุดก็ได้ ผมไม่ต้องการให้มันเกิดเหตุอย่างงั้นขึ้นเลย" ลอว์ เปิดใจในเวลาถัดมาเกี่ยวกับประตูที่ทำเป็น
ดังนี้ ในปี 2012 ลอว์ ก็เปิดใจอีกรอบว่ามันเป็นประตูที่น่าเจ็บมากมายๆสำหรับตน โดยเพียงพอโดนถามคำถามว่าเขาจำเป็นต้องเจ็บนานเพียงใดกับประตูที่ทำเป็นในวันนั้น เจ้าตัวก็ตอบว่า "เกมนั้นมันผ่านมากี่ปีแล้วล่ะ ? ต่างหากที่เป็นคำตอบของคุณ มันมีการเน้นย้ำถึงเรื่องนั้นอยู่ตลอด ผมถูกจำจากหัวข้อนั้นอยู่เสมอ มันน่าสงสารมากมายๆ"
– เด็กเกร็ดบอล –