ไลป์สิกข์เฮจนได้! "สิลวา"จัดเม็ดแรก-"โซบอสซ์ไล'ยิงเบิ้ลกระหน่ำสตุ๊ตการ์ท 
เครื่องปรับอากาศเบ ไลป์สิกข์ ผลงานคืนกลับฟอร์มเก่ง ข้างหลังแนวรุกอีกทั้ง “อันเดร สิลวา” ซัดจุดลูกโทษเบิกสกอร์แรกกับกลุ่มใหม่ พร้อมสตาร์อย่าง “โดมินิค โซบอสซ์ไล” เบิ้ลสองลูกสุดงาม พาทีมกระหน่ำเหลว “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท หมดสภาพ 4-0 เปิดฉากสามแต้มแรกเสร็จ สำหรับเพื่อการชิงชัยศึกบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันศุกร์ที่ 20 ส.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
สนาม : เร้ดบูลส์ อารีน่า
ศึกบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันศุกร์ที่ 20 เดือนสิงหาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา เครื่องปรับอากาศเบ ไลป์สิกข์ ผลงานเปิดลีกแพ้แบบขายหน้าขายตา เจสซี่ มาร์ช จำเป็นต้องรีบสมาชิก วาง "เอมิล ฟอร์สเบิร์ก" เดินเกมช่วยเหลือ "อันเดร สิลวา" ที่จ้องมองเบิกประตูแรกกับกลุ่มใหม่ ดวล "ม้าขาว" สตุ๊ตการ์ท ที่เก็บสามแต้มไปแล้ว เปลเลกริโน่ มาตารัซโซ่ มี "บอร์น่า โซซ่า" เป็นแถวรุกทีเด็ดเกมนี้
เจ้าถิ่นเดินเกมเร็วตั้งแต่ห้านาทีแรก เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ลากบอลฝ่ามาหน้ากรอบจุดโทษ ก่อนเจ้าตัวซัดโดยทันที บอลกระเด้งพื้นนิดหน่อย แต่ว่าถูก โฟลเรียน มุลเลอร์ พุ่งปัดทางเสาทางขวาได้ทัน
ม้าขาวทักนาทีที่ 8 ฟิลิปป์ เคลเมนต์ เปิดลูกเตะมุม แนวรับเจ้าถิ่นกระแทกสกัดมาเข้าทาง มาเตโอ คลิโมวิช ส่องไกลนอกกรอบ บอลติดไซต์ก้อยลอยเข้าซองนายทวารคู่ต่อสู้
จังหวะถัดมา โดมินิค โซบอสซ์ไล ไหลบอลสั้นฝากให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นปะทุนคู สะกิดบอลทิ้งไปที่ อันเดร สิลวา หวดจากทางขวาในจุดโทษ โชคร้ายบอลออกข้างกรอบประตู
ผ่านมานาคราวที่ 14 โดมินิค โซบอสซ์ไล ส่งบอล ก่อนเป็น โจสโก้เก๋ กวาร์ดิออล ฟูลแบ็ขี้กลากเข้าจุดโทษ เฉือนเรียดจากซ้ายมาหน้าประตู บอลเกลือกมาที่ วิลลี่ ออร์บาน เพิ่มเติมมายิงแต่ว่าโดนไม่ดีบอลถูกผุ้รักษาประตูกลุ่มเยี่ยมรับไว้
คริสโตเฟอร์ เอ็นปะทุนคู รับบอลแล้วซัดปั่นทางด้านซ้าย โฟลเรียน มุลเลอร์ โชว์เหนียวเซฟบอลกระเด้งชนตัว เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ที่ยืนอยู่รอบๆกึ่งกลางจุดโทษ บอลลอยออกข้างเสาแรกไป อีกสองนาทีถัดมา
ไลป์ซิกข์บุกอีกนาที 24 โจสโก้เก๋ กวาร์ดิออล ดอดมาโหม่งชงเข้าจุดโทษ บอลลอยเปิดโอกาสให้ อันเดร สิลวา ทดลองรถจักรยานอากาศยิง แต่ยังไม่เป็นผลบอลถูกรับไว้แบบไม่ยาก
อีกห้านาที ลูคัส วัวลสเตอร์มันน์ เก็บตกบอล แนวรับเจ้าถิ่นซัดไกลทางด้านขวา นายทวารม้าขาวยืนตีทิ้ง ก่อนมีช็อต คริสโตเฟอร์ เอ็นปะทุนคู ถูกเตะล้มในจุดโทษ แม้กระนั้นเชิ้ตดำมิได้ว่าอะไร
เจ้าถิ่นเฮลั่น 1-0 โดมินิค โซบอสซ์ไล จับบอลข้างหลังลำแข้งกลุ่มเยี่ยมจัดการไม่ขาด กองกลางชาวฮังการี จัดแจงปั่นบอลหน้ากรอบจุดโทษทางขวา บอลผ่านตัวนายทวารสตุ๊ตการ์ท ซุกตาข่ายฝั่งซ้ายสุดงาม เป็นประตูแรกในลีกของเจ้าตัวด้วย นาทีที่ 39 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
คริสโตเฟอร์ เอ็นระอุนคู พนันบอลยัดให้ อันเดร สิลวา สปีดมาในจุดโทษขัดจ่าย และก็เป็น เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ใส่มาสัมผัสบอลจิ้มหนีตัวนายทวารม้าขาว ไลป์ซิกข์ ฉีกเป็น 2-0 ตั้งแต่ต้นช่วงหลังนาทีที่ 46
โดมินิค โซบอสซ์ไล หยอดฟรีคิกขอบกรอบเขตโทาทางซ้าย บอลลอยเข้าพบกรอบประตู แม้กระนั้นโอกาสนี้ โฟลเรียน มุลเลอร์ ไม่พลาดตีทิ้งออกมาไป ในนาทีที่่ 51
แต่ว่าแล้วนาทีถัดมา เจ้าของบ้านนำไกล 3-0 โดมินิค โซบอสซ์ไล ได้โอกาสเปิดครึ่งหนึ่งยิงลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา ขอบสนามทางด้านซ้าย บอลผ่านมาในจุดโทษ ก่อนพุ่งทิ่มตาข่ายทางขวา จำพวกนายทวารกลุ่มเยี่ยมยืนดูได้เพียงอย่างเดียว
เกมครบหนึ่งชั่วโมง โรกางร์โต้ มัสสิบด ดึงบอลมาซัดในจุดโทษ แต่ทว่าโดน โมฮาเหม็ด ซิมาก็อง แผงหลังไลป์สิกข์ แทรกทำลายจังหวะจนถึงแนวรุกกลุ่มเยี่ยมยิงแป้ก กลุ่มเยี่ยมชวดจังหวะทำแต้ม
อีกเพียงแค่สามนาที คริสโตเฟอร์ เอ็นลุกนคู หวดบอลไปถูกอก มาร์ค-โอลิเวอร์ เคมฟ์ แล้วกระดอนโนแขน ผู้ตัดสินชี้จุดลูกโทษ อันเดร สิลวา สมัครใจยิงสร้างประตูเม็ดแรกของเขากับสังกัดเดิมใหม่ได้แล้ว ไลป์ซิกข์ ทิ้งห่าง 4-0
ตอนสิบนาทีด้านหลังเกม วาทารุ เอ็นโดะ พุ่งลูกระเบิดโหม่งลูกครอสจากทางขวามือของสหาย แต่ว่าบอลไม่มีน้ำหนักกระเด็นเข้าซอง ปีเตอร์ เราลาชี่ ตะปบสบายมือ จบเกม เครื่องปรับอากาศเบ ไลป์สิกข์ กระหน่ำ สตุ๊ตการ์ท 4-0 เปิดฉากสามแต้มแรกเสร็จ
รายนามผู้เล่นที่ลงไปในสนาม
เครื่องปรับอากาศเบ ไลป์สิกข์ (4-2-3-1): ปีเตอร์ ข้าลาชี่,ลูคัส วัวลสเตอร์มันน์,วิลลี่ ออร์บาน (นอร์ดี้ มูกีเล่ น.76),โมฮาเหม็ด ซิมาก็อง,โจสโก้เก๋ กวาร์ดิออล,ไทเลอร์ อดัมส์,อมามอง ไฮดาร่า (มาร์เชล ซาบิตเซอร์ น.69),โดมินิค โซบอสซ์ไล (คอนราด ไลเมอร์ น.69),เอมิล ฟอร์สเบิร์ก,คริสโตเฟอร์ เอ็นปะทุนคู (ยุยงสซุฟ โพลบวงสรวง น.82),อันเดร สิลวา (ฮวัง ฮี-เฉลียง น.69)
สตุ๊ตการ์ท (3-4-2-1): โฟลเรียน มุลเลอร์,คอนสตานติเตียนนอส มาฟโรพานอส (ขว้างสติดอยู่ล สเตนเซล น.84),วัลเดมาร์ อันทอน,มาร์ค-โอลิเวอร์ เคมฟ์,โรกางร์โต้ มัสสิบด,ฟิลิปป์ เคลเมนต์ (เอ็นโซ มีล็อต น.73),วาทารุ เอ็นโดะ,บอร์น่า โซซ่า,ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์ (เอริค ทอมมี่ น.81), มาเตโอ คลิโมวิช (ซาซ่า ติดอยู่ลัดจ์สิช น.73),ฮามาดี้ อัล กัดดิอุย (ดาเนียล ดิดาวี น.46)
